5 อันดับแรกของการปรับปรุงเวอร์ชั่น ตั้งแต่ Workflow Assembly ไปจนถึงการสร้างโมเดลชิ้นส่วน, Sheet Metal และอื่นๆ มาดูกันเลยว่ามีการปรับปรุงด้านใดบ้างที่จะช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้น ดีขึ้น ตาม Concept : Working Faster , Working Smarter , Working Together.

  1. Assembly
    – ปรับโหมดแก้ไขให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติโดยใช้ Lightweight Technology เมื่อโหลดส่วนประกอบในโหมดแก้ไข
    – มีประสิทธิภาพในการบันทึกชิ้นส่วนประกอบขนาดใหญ่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
    – เร่งความเร็วของขั้นตอนโดยการแยกการส่งออกชิ้นส่วนประกอบเป็นไฟล์ STEP

ประโยชน์ที่ได้คือ สามารถทำงานได้เร็วยิ่งขึ้นกับชิ้นส่วนประกอบขนาดใหญ่ การจัดการประกอบแบบอัตโนมัติ

  1. Assembly Workflows
    – ตรวจสอบความสมบูรณ์ของการออกแบบโดยการแทนที่คู่ที่หายไปแบบอัตโนมัติโดยอ้างอิงจากพื้นผิว ขอบ ระนาบ แกน และจุด
    – ประหยัดเวลามากขึ้นเมื่อออกแบบส่วนประกอบด้วย Magnetic Mates และระงับจุดเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็น

ประโยชน์ที่ได้คือเร่งความเร็วในการออกแบบส่วนประกอบพร้อมกับความคล่องตัวด้วย Assembly Workflows.

  1. Parts and Features
    – เร่งการสร้างแบบจำลองชิ้นส่วนโดยอ้างอิงจากระบบพิกัดในแบบร่าง Dimension และ mirroring ทั้ง 3D และ 2D
    – สร้าง wrap จากภาพร่างที่ใช้ single-line

ประโยชน์ที่ได้คือ การสร้างรูปทรงชิ้นส่วนได้เร็วยิ่งขึ้น

  1. Sheet Metal
    – ปรับค่าการโค้งงอให้เท่ากันได้ง่ายขึ้นโดยใช้คำสั่ง Base Flange หรือ Lofted Bend
    – แจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อเกินขอบเขตที่กำหนด

ประโยชน์ที่ได้คือ เร่งความเร็วในการออกแบบ Sheet metal  ในขณะปรับปรุงการสื่อสารกับการผลิต

  1. Drawings and Detailing
    – รับรองมาตรฐานโดยจำกัดความคลาดเคลื่อนเป็นมาตรฐานเฉพาะด้วยฟังก์ชันenable/disable
    – ระบุค่าที่ถูกแทนที่ใน BOM ได้ง่ายขึ้น โดยค่าจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเมื่อถูกแทนที่
    – แสดงโมเดลโปร่งใสใน Drawing ด้วย Hidden Lines Removed (HLR) และ Hidden Lines Visible (HLV)

ประโยชน์ที่ได้คือ สร้าง Drawing เป็นมาตรฐานอย่างถูกต้องและมั่นใจมากขึ้นโดยการจำกัดความคลาดเคลื่อน

สำหรับ Feature อื่นๆ สามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงาน “Innovation Day 2023” หรือรับชมในช่องทาง Online ผ่านทาง Youtube และ Facebook ได้ที่ https://forms.gle/TZt5ZbNuewLJTw1G6

บทความโดยเจนนี่สุข