ลองจินตนาการดูว่ารถยนต์ที่เราจะขับในอีก 10 ปีข้างหน้า หน้าตามันจะเป็นแบบไหน … แบบไร้คนขับ ? แบบพลังงานไฟฟ้า ? ใช้เชลล์เชื้อเพลิง หรือ เป็นรถที่บินได้ ?
ไม่มีใครรู้ได้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ที่รู้ ๆ คือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจะต้องเปลี่ยนวิถีการขับขี่ของเราอย่างแน่นอน และนี่คือเหตุผลที่ต้องมี “SOLIDWORKS” ตัวช่วยที่จะเป็นเครื่องมีที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Optimization Tools) ที่จะขับเคลื่อนพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และให้เราสามารถหา solution ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์แข็งแรงขึ้น เบาขึ้น เร็วขึ้น และราคาถูกลงอีกด้วย
แล้วเราสามารถใช้ SOLIDWORKS ทำอะไรได้บ้าง ? คำตอบนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณหามวล, ปริมาตร, จุดศูนย์ถ่วง, หา Dimensions, หา Material, หาพื้นที่พื้นผิว, คำนวณแรง, คำนวณหาอุณหภูมิ, หาความถี่, หาความดัน, หาความเร็วและความเร่ง, หาอัตราการไหล, หาต้นทุน, หาความเค้นและความเครียด, หา Factor of Safety และอื่น ๆ อีกมากมาย
จากตัวอย่างที่ว่ามานั้น ถ้าสมมติว่าเราจะออกแบบกังหันลมและเราต้องการที่จะลดน้ำหนักลงเพื่อจะประหยัดต้นทุน และตรงตามเงื่อนไขความปลอดภัย เราต้องกำหนดค่าความสูงของตัวฐานกังหัน (tower) และความยาวของใบพัดที่เหมาะสมที่สุด ที่ตัว tower จะสามารถทนต่อลมที่พัดมาจาก 80 ไมล์ และ safety factor เป็น 2 เท่า ซึ่ง SOLIDWORKS สามารถทำทุกอย่างที่ว่ามาได้
ขั้นแรกให้เราทำการวิเคราะห์การไหลโดยใช้ SOLIDWORKS Flow Simulation ในการวิเคราะห์ลมที่มีความเร็ว 80 ไมล์ต่อชั่วโมง จากนั้นให้เรานำความกดอากาศในเข้ามาคำนวณใน SOLIDWORKS Simulation เพื่อหา factor of safety และหาความผิดปกติของใบพัด จากนั้นก็ใช้ Parametric Optimization ซึ่ง SOLIDWORKS สามารถทดสอบและจำลองสถานการณ์ได้ไม่จำกัดจำนวนเพื่อหาขนาดของ tower และใบพัดที่เหมาะสมที่สุด ด้วยความสามารถนี้ ผู้ออกแบบสามารถคิดได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
และที่ดีไปกว่านั้น Parametric Optimization ถูกรวมอยู่ในทุก license ของ SOLIDWORKS, Flow Simulation และบาง license ของ Simulation อีกด้วย
แปลจากบทความของ Mai Doan (blogs.solidworks.com)
เรียบเรียงโดย SOLIDWORKS Girl