แคคตัสหรือกระบองเพชรต้นไม้สุดน่ารักที่คนทั่วไปนิยมปลูกกันมีทั้งเลี้ยงง่ายและเลี้ยงยากซึ่งก็ต้องใส่ใจดูแลกันเพื่อให้แคคตัสของเรามีความสวยงาม ต้นกระบองเพชรนี้ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในทะเลทรายซึ่งมีอากาศร้อนจัดส่วนกลางคืนก็จะมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นทำให้แคคตัสสามารถที่จะเพาะพันธุ์ได้ในประเทศเราซึ่งมีอากาศร้อนไม่แพ้ทะเลทรายในปัจจุบัน
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ลองเลี้ยงแคคตัสมาหลายสายพันธ์และสังเกตได้ว่า
- แคคตัสจะมีรูปร่างเป็นครึ่งทรงกลมหรือทรงกระบอก
- แคคตัสที่มีลักษณะเป็นภูหรือเป็นหลิบรอบๆ ลำต้น
คำถามก็คือว่าทำไมแคคตัสต้องมีรูปทรงรูปร่างแบบนี้ คำตอบก็คือเป็นการวิวัฒนาการจากธรรมชาติเพื่อทำให้ตัวแคคตัสเองนั้นสามารถดำรงชีพอยู่ในสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายอย่างเช่นทะเลทรายได้
ในทะเลทรายนั้นแสงแดดจะส่องกระทบตัวตนอยู่ตลอดเวลาทำให้ความร้อนจากแสงแดดผสมเข้าลำต้นอยู่ตลอดเวลาหากไม่มีการระบายความร้อนออกได้ทันตัวต้นแคคตัสก็จะสุกเนื่องจากความร้อนนี้ ทำให้ไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ลักษณะที่เป็นพูหรือริบนี้จะช่วยให้ต้นแคคตัสสามารถระบายความร้อนได้ดีเหมือนครีบหรือฟินที่อยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์ระบายความร้อนต่างๆที่เราได้เห็นในปัจจุบัน ก่อนที่จะลองทำการวิเคราะห์การระบายความร้อนของต้นแคคตัส เราจะต้องมีแบบ 3 มิติก่อน ดังนั้นสำหรับบทความนี้จะเกี่ยวกับการสร้างชิ้นงานรูปร่างแคคตัสกันง่าย ๆ ครับโดยเริ่มต้นเรามาลองดูต้นแคคตัสกันก่อนว่าเราจะขึ้นรูปด้วยวิธีใดกันดี (เนื่องจากวิธีนั้นมีไม่จำกัดในที่นี้ผมจะขอยกตัวการขึ้นรูปผิวให้ดูครับ)
จากรูปจะเห็นว่าแคคตัสมีพูเหมือนกันอยู่ทั้งหมด 8 พู ดังนั้นเมื่อเราวาดพูได้จะใช้ Circula Pattern ในการทำซ้ำ และเมื่อพิจารณาพู ๆ หนึ่งแล้วพบว่าในพูนั้นมีความสมมาตรซ้ายขวาดังนั้นเราจึงสามารถที่จะวาดเพียงแค่ครึ่งพูแล้วใช้ Symmetry ในการสะท้อนรูปทรงไปอีกฝั่งทำให้ครบพูได้
รูปทรงที่เหลือครึ่งพูนั้นจะเป็นเหมือนเสี้ยวของแตงโมแต่มีความโค้งมนของช่วงที่เป็นเปลือก ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ก็คือลอฟท์ทั้งแบบทรงตัน( Solid ) และแบบผิว ( Surface ) แต่ในที่นี้เราจะมาขึ้นรูปด้วยผิวกันที่คล้าย ๆ ลอฟท์ก็คือ
Boundary Surface และ Fill Surface
Boundary Surface คือการทำผิวให้แนบไปกับลายสาน เหมือนเราสานตะกร้าแล้วเอากระดาษแผ่นบางมาแปะให้เกิดเป็นผิวขึ้นมา ส่วน Fill Surface นั้นคือการแปะกระดาบลงบนวงเส้นรูปปิดหนึ่งๆแล้วพยายามที่จะแปะทับให้สนิทพอดีกับเส้นปิดนั้นๆ (โดยทั้งสองฟังก์ชั่นนี้สามารถที่จะขึ้นรูปพูของแคคตัสนี้ได้ทั้งคู่ และผลลัพธ์ที่ได้ไม่เหมือนกันด้วยแม้จะใช้เส้นสเก็ตช์ชุดเดียวกันก็ตาม) สำหรับตัวที่เหมาะสมกว่าในการขึ้นรูปพูแคคตัสนี้นั้นก็คือ Boundary Surface ซึ่งหน้าที่เราต่อไปก็คือการวาดเส้นลายสานขึ้นมานั่นเองครับ
เริ่มแรกผมได้วางเส้นสองเส้นเพื่อเป็นขอบของพูแคคตัส และสร้างแกนหนึ่งแกนไว้สำหรับการอ้างอิงการเขียนเส้นและการสร้างระนาบ จากนั้นผมเขียนเส้นแนวรัศมีแฉกไว้เพื่อให้เกิดจุดตัดซึ่งไว้สำหรับเอาจุด 3 จุดไปสร้างเป็นระนาบในการเขียนเส้นสเก็ตช์ต่อ ๆ ไป
ลัการะของผิวพูนั้นจะโค้งเป็นรูปตัว S ดังนั้นผมก็เริ่มสร้างเส้นผิวที่ละเส้นบนระนาบที่ได้สร้างขึ้นทั้งหมด และใช้การ Constraint แบบ pierce เพื่อเชื่อมจุดเข้ากับเส้นให้สนิท จะได้ไม่มีรูรั่วซึ่งส่งผลต่อการขึ้นรูปชิ้นงานต่อไป
สร้างเส้นผิวให้ครับก็เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับเส้นลายสานที่จะนำไปทำ Boundary Surface ต่อไป
ใน Boudary Surface จะต้องกำหนดทิศทางของเส้นลายสานสองทาง ในที่นี้ทิศทางแรกคือเส้นสีชมพูและทิศทางที่สองคือเส้นสีน้ำเงิน
จากนั้นก็ทำเส้นสเก็ตช์ด้านข้างและใช้ Planna Surface ในการทำผิวทั้งสองฝั่ง
ส่วนช่องเปิดด้านใต้นั้นใช้ Fill Surface ในการสร้างผิวปิดขึ้นมา
ใช้คำสั่ง Knit Surface และเงื่อนไข Merge Entities และ Create Solid ในกาเชื่อมผิวทั้งสี่ผิวเข้าด้วยกันและให้เปลี่ยนเป็นชิ้นงานทรงตัน และใส่ Variable Fillet เล็กน้อย
จากนั้นใช้ Symmetry ในการทำให้ชิ้นงานครึ่งพูนี้เป็นชิ้นงานเต็มหนึ่งพูและทำ Circular Pattern ในการทำซ้ำให้กลายเป็นแคคตัสที่สมบูรณ์ครับ เท่านี้เราก็มีแบบแคคตัสไว้ทำการวิเคราะห์การระบายความร้อนต่อไปครับ