หลายคนอาจจะคิดว่า CAD เป็นศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับคนที่เป็น Engineer หรือนักออกแบบเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว CAD อยู่ในทุกที่ๆ ในชีวิตประจำวันของเรามากกว่าที่เราคิด ไม่ว่าจะเป็นในมือถือ อุปกรณ์ Smart Device ที่เราใช้ในทุกวันหรือแม้แต่เก้าอี้ที่เรากำลังนั่งอยู่ตอนนี้ ในบทความนี้เราจะกลับมา Back to Basic และมาทำความเข้าใจกันว่า CAD คืออะไรกันแน่
ประวัติย่อๆของ Computer-Aided Design (CAD)
ต้นทางของการสร้างแบบหรือ Drafting นั้นต้องบอกว่าย้อนกลับไปเป็นหลักพันปีกันเลยทีเดียว โดยในยุคโบราณมนุษย์มีรู้จักการวาดเขียนแบบกันบนแผ่นหนังหรือบนเปลือกไม้ และใช้เครื่องมือง่ายๆที่มาจากธรรมชาติในการตีเส้นตรงและการสร้างวงกลมถ้าในยุคปัจจุบันก็คือ ไม้บรรทัด วงเวียน ในการสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ ถัดมาในยุคฟื้นฟูศิลปะวัฒนธรรมหรือ Renaissance ซึ่งเป็นยุคที่วิทยาศาสตร์รุ่งเรืองอย่างมาก แบบที่ถูกเขียนขึ้นเริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น มาถึงยุคของการปฎิวัติอุตสาหกรรม ในศตวรรษที่ 18-19 เป็นยุคที่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นทฤษฎีในยุค Renaissance คิดไว้ ถูกนำมาปรับใช้และ Applied ในงานต่างๆ เกิดแบบที่เป็นแบบทางวิศวกรรม (Engineering) ที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อไปสู่การผลิต (Manufacturing) แบบถูกทำให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น เครื่องมือต่างๆ ตาราง T-squares และ protractors กลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการเขียนแบบด้วยมือ
และคำว่า CAD ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันเริ่มเกิดขึ้นในช่วง 1960s โดยการใช้ Computer เพื่อช่วยวิศวกรในการออกแบบ แต่ระบบ CAD ในช่วงแรกๆมีราคาแพงและเข้าถึงยากมาก ถูกใช้ในเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้น มาถึงช่วง 1980s ที่ PC หรือ Personal Computer มีการผลิตมากขึ้นทำให้ราคาเริ่มจับต้องได้มากขึ้น และ CAD Software ก็เริ่มถูกพัฒนาเพื่อให้ใช้งานได้กับระบบปฎิบัติการใน PC ทำให้นักออกแบบ วิศวกร สถาปนิก ทั่วไปๆเข้าถึงโปรแกรมเหล่านี้ได้ สามารถเขียนแบบ เก็บข้อมูล แก้ไขแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เวลาผ่านไป CAD systems มีการพัฒนาความสามารถเรื่อยมา มีความซับซ้อนมากขึ้น สามารถแสดงแบบที่มีรายละเอียดมากๆ หรือการ Simulate จำลองสถานการณ์ต่างๆได้
และปัจจุบัน CAD ก็ได้เป็นเครื่องมือทางอุตสาหกรรมที่ต้องใช้การออกแบบที่ละเอียด ถือว่ามาไกลอย่างมาก และระบบ CAD ในปัจจุบันก็มีทั้งฟีเจอร์ต่างๆที่น่าสนใจไม่ว่าจะตอบโจทย์การใช้งาน 2D Drafting หรือ 3D Modeling หรือกระทั่งการทำงานร่วมกันผ่าน Cloud Collaboration
ประเภทของ CAD Software
ต้องบอกว่าปัจจุบันมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและงานที่ออกแบบ หลักๆแบบที่เรียกว่า 2D CAD อย่าง DraftSight จะนิยมในงานออกแบบ Floor plans, Layouts, และ Technical drawings สำหรับคนที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงานร่วมกันทั้ง 2D และ 3D CAD ก็จะเป็นประเภท Hybrid CAD เช่น DraftSight Premium หรือ Enterprise Plus ก็สามารถทำงานได้ทั้งสองแบบ
อีกประเภทหนึ่งเรียกว่า Pure 3D CAD อย่าง SOLIDWORKS และ CATIA เป็นเครื่องมือการออกแบบและการผลิต โดยการสร้างแบบเสมือนจริง 3D รวมไปถึงความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Cloud อย่าง 3DEXPERIENCE platform ช่วยเสริมเรื่องของการทำงานร่วมการ แชร์ข้อมูล
CAD Software เหมาะกับใครบ้าง?
แน่นอนว่า CAD เป็นเครื่องมือจำเป็นของวิศวกรและนักออกแบบ แต่ก็มีการใช้ในด้านต่างๆด้วยตั้งแต่งานผลิตไปถึงการศึกษา entertainment และแฟชั่น สถาปนิก (Architects) ใช้ CAD ในการสร้างผังอาคาร ผู้ผลิต (Manufacturing) ใช้โมเดลตั้งแต่การสร้างแบบ Machinery ไปจนถึง Consumer Product ผู้สอน (Educators) ใช้ CAD ในการสอนแบบ STEM ให้นักเรียน นักศึกษา ได้ใช้งานและมีประสบการณ์และพัฒนาทักษะที่จะใช้จริงในการทำงาน งานแฟชั่น ใช้ CAD ในการออกแบบ Pattern บนเสื้อผ้า และตัวอย่างอีกมากมายในหลากหลายอุตสาหกรรม
ใช้ CAD Files ทำอะไรบ้าง?
ไฟล์ CAD เปรียบเหมือนกระดูกสันหลังของอุตสาหกรรมและโปรเจคการออกแบบในปัจจุบัน ตั้งแต่แบบ Blueprint ละเอียดๆ ไปจนถึงโมเดล 3 มิติ ทำให้การออกแบบง่ายต่อการแชร์และแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ DWG ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ CAD เกือบทั้งหมด หรือไฟล์ DXF ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม ไฟล์ CAD ช่วยให้นักออกแบบและวิศวกรสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว
นอกเหนือจากการสื่อสารในการออกแบบแล้ว ไฟล์ CAD ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ไฟล์สำรอง (BAK) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการ Backup ข้อมูล ไฟล์บันทึกอัตโนมัติ (DS$) ป้องกันการสูญหายจากการเกิดปัญหาฉับพลัน ไฟล์ประเภทอัตโนมัติ Automation and customization เช่น สคริปต์ LSP และ SCR ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานที่ซ้ำๆได้เร็วขึ้น และไฟล์ MNU ช่วยให้สามารถสร้างเมนูแบบกำหนดเองเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไฟล์เหล่านี้ทั้งหมดช่วยให้กระบวนการออกแบบเป็นไปอย่างราบรื่นและลดข้อผิดพลาด ทำให้ไฟล์ CAD เป็นเครื่องมือที่สำคัญไม่เพียงแค่สำหรับการออกแบบ แต่ยังสำหรับการจัดการ Workflow อีกด้วย